18 พฤศจิกายน 2023
Imposter Syndrome หรือ อาการที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ คือ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเรา ที่มักคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ ไม่มีความสามารถมากพอ มองไม่เห็นข้อดีของตัวเอง ถึงแม้จะทำงานได้สำเร็จก็ไม่รู้สึกยินดี หรือ ชื่นชมคุณค่าตัวเอง แต่กลับรู้สึกว่าไม่ได้เกิดจากความสามารถตัวเอง อาจเพราะมีคนช่วย โชคช่วยเสียมากกว่า
ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นบ่อย ๆ จะยิ่งเกิดเป็นความกลัว กลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าตัวเองไม่เก่งพอ ไม่ดีพอ ยิ่งกดดัน ผลักดันตัวเองมากเกินขีดความสามารถเพื่อไม่ให้คนจับได้ เมื่ออาการเหล่านี้สะสมนานวัน อาจเกิดเป็นอาการที่เรียกว่า Imposter Syndrome ได้
Impostor Syndrome อาจเกิดได้จากหลายปัจจัยประกอบกัน เช่น
โดยอาจพบในผู้มีปัญหาในการรับรู้ความสามารถของตนเอง (Self-Efficacy) คนที่ขาดความมั่นคงทางอารมณ์ คนที่ขาดความทะเยอะทะยานและไม่สามารถทำตามแบบแผนที่ถูกกำหนดได้ หรือบางครั้งอาจพบในคนที่มี
ซึ่งหากสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่ต้องการจะรู้สึกไม่พอใจและโทษตัวเอง การเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมในวัยเด็ก เช่น ความกดดันในการเรียน การถูกเปรียบเทียบกับลูกพี่ลูกน้อง ครอบครัวที่ควบคุมการใช้ชีวิต และครอบครัวที่ปกป้องดูแลลูกมากเกินไป
อย่างโรควิตกกังวล และโรคซึมเศร้า ซึ่งอาจทำให้สภาพจิตใจของบุคคลนั้นเปลี่ยนแปลงไป เช่น เกิดความสงสัยในตัวเอง มีความมั่นใจในตัวเองลดลง และกังวลว่าคนอื่นจะมองตัวเองไม่ดี
เมื่อเกิดอาการ Imposter Syndrome เราจะมีกลไกป้องกันตัวเองเกิดขึ้นควบคู่ เพราะคิดว่าตัวเองยังทำงานได้ไม่ดีพอ ทำอะไรก็ยังไม่เต็มที่ เกิดเป็นความกลัว คนอื่นจับได้ และคิดว่าเรากำลังหลอกลวงอยู่หรือเปล่า ซึ่งวิธีหนึ่งที่เราพยายามปกปิด คือการทำงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปัญหาของแนวทางนี้คือมันไม่ยั่งยืน หากเราทำงานหนักเกินไปเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดความเครียดในระดับสูงและ Burnout หมดไฟในที่สุด
>> รับงานทุกอย่างมามากเกินที่จะสามารถจัดการได้
>> พูดว่า Yes ทั้งที่ต้องการปฏิเสธ
>> ไม่มีแบบแผนการดูแลตัวเอง
>> ไม่มีขอบเขตระหว่างงาน และชีวิตส่วนตัว
>> ทำงานล่วงเวลา และ ทำงานไม่มีวันหยุด
ผู้ที่มีภาวะ Impostor Syndrome มักมีความมั่นใจในตัวเองและการเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานแย่ลง และนำไปสู่ภาวะหมดไฟ Burnout ได้ในที่สุด
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งในปี 2559 แสดงให้เห็นว่านักศึกษาแพทย์ของสหรัฐฯ ที่มีภาวะ Imposter Syndrome มีแนวโน้มที่ ระดับความเหนื่อยล้าทั้งร่างกาย และจิตใจเพิ่มสูงขึ้น ขาดแรงจูงใจในงานที่ทำ รู้สึกแปลกแยก พลังชีวิตหดหาย ซึ่งเป็นอาการที่คล้ายกับคำจำกัดความของภาวะ Burnout โดยองค์การอนามัยโลก (WHO)
และจากการสำรวจระหว่างประเทศเมื่อเร็ว ๆ นี้กับพนักงาน knowledge workers จำนวน 10,000 คนโดย Asana ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจัดการงานในสหรัฐฯ พบว่า 42% เชื่อว่าพวกเขาเคยมีประสบการณ์ทั้ง Imposter Syndrome และภาวะหมดไฟ Burnout ในเวลาเดียวกัน